ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีรัสเซียซึ่งเป็นที่จับตาจากทั่วโลกออกมาชัดเจนแล้วว่า “วลาดิเมียร์ ปูติน” ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 5 ด้วยคะแนนเสียงถล่มทลายเหนือคู่แข่ง

หลังจากนับคะแนนไปได้ 3 ใน 4 คณะกรรมการการเลือกตั้งของรัสเซียกล่าวว่า มีประชาชนออกมาใช้สิทธิทั้งสิ้น 74% และปูตินเป็นผู้นำด้วยคะแนนเสียงสูงถึง 87.14% ถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์

ก่อนหน้านี้ในปี 2018 มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 67.5% และครั้งนั้นปูตินชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียง 76.7%

คะแนนการเลือกตั้งครั้งนี้ของปูตินทิ้งห่างอันดับที่สองอย่าง นิโคไล คาริโตนอฟ ผู้สมัครจากพรรคคอมมิวนิสต์ ไปแบบชนิดไม่เห็นฝุ่น โดยคาริโตนอฟได้คะแนนเสียงไปเพียง 4% เท่านั้น

เมื่อเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งประกาศผลการนับคะแนนเสียงดังกล่าว ปูตินก็ออกมาแถลงชัยชนะ และบอกว่า ประชาธิปไตยของรัสเซียมีความโปร่งใสมากกว่าหลายประเทศในโลกตะวันตกเสียอีก

ชัยชนะของปูตินเกิดขึ้นท่ามกลางการประท้วงของผู้สนับสนุน อเล็กเซ นาวาลนี อดีตผู้นำฝ่ายค้านผู้ล่วงลับ และเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชาติตะวันตก

จากโครงการประท้วง “เที่ยงต่อต้านปูติน” (Noon Against Putin) ส่งผลให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต่อแถวยาวประท้วงในเมืองต่าง ๆ ของรัสเซีย รวมถึงมอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และนอกสถานทูตหลายแห่งในต่างประเทศ กลุ่ม OVD-Info ระบุว่า มีชาวรัสเซียอย่างน้อย 80 คนถูกจับกุม

“ปูติน” ชนะเลือกตั้งขาดลอย ลั่น “ประชาธิปไตยรัสเซียโปร่งใสกว่าตะวันตก”

ประเทศตะวันตกยังร่วมประณามการลงคะแนนเสียงว่าปราศจากเสรีและความยุติธรรม

เยอรมนีเรียกการเลือกตั้งรัสเซียว่าเป็น “การเลือกตั้งหลอก” ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการที่อาศัยการเซ็นเซอร์ การปราบปราม และความรุนแรง ขณะที่ เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร ประณาม “การจัดการเลือกตั้งที่ผิดกฎหมายในดินแดนยูเครน”

ด้านประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวว่า “เผด็จการรัสเซียกำลังจำลองการเลือกตั้งอีกครั้ง”

ส่วน โกลอส (Golos) หน่วยงานเฝ้าระวังอิสระ ถูกห้ามไม่ให้สังเกตการณ์การลงคะแนนเสียง แต่มีรายงานความผิดปกติเกิดขึ้น รวมถึงการที่เจ้าหน้าที่ภาครัฐถูกกดดันให้ลงคะแนนเสียงในหน่วยเลือกตั้งหรือทางออนไลน์ให้กับปูติน

ชาวรัสเซียมีเวลา 3 วันในการลงคะแนนเสียง และประชาชนในพื้นที่ที่รัสเซียยึดครองในยูเครนมีเวลานานกว่านั้นอีก เพื่อพยายามชักชวนประชาชนให้เข้าร่วม

มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งคนหนึ่งถูกสังหารในเมืองเบอร์เดียนสก์ ในซาโปริซเซียที่ถูกยึดครอง และมีกลุ่มสนับสนุนรัสเซียที่เดินไปตามบ้านแต่ละหลังพร้อมบัตรลงคะแนนและทหารติดอาวุธ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ยูเครนที่ถูกยึดครองลงคะแนนเสียง

แต่ในสื่อของรัฐรัสเซียที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด การกระทำดังกล่าวได้รับการยกย่องว่าเป็นชัยชนะ ผู้สื่อข่าวรายหนึ่งพูดว่า “นี่เป็นระดับการสนับสนุนและความสามัคคีที่เหลือเชื่อรอบตัวของ วลาดิเมียร์ ปูติน และเป็นสัญญาณไปยังประเทศตะวันตก”

ปูตินออกมายกย่องการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของรัสเซียว่ามีความก้าวหน้ากว่าสหรัฐฯ มาก โดยเฉพาะในการลงคะแนนเสียงออนไลน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่กล่าวว่ามีผู้ลงคะแนนเสียงผ่านช่องทางนี้ถึง 8 ล้านคน

“มันโปร่งใสและเป็นกลาง ไม่เหมือนในสหรัฐอเมริกาที่มีการลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ คุณสามารถซื้อคะแนนเสียงได้ในราคา 10 ดอลลาร์” ปูตินกล่าว

ประธานาธิบดีปูตินชื่นชมฝ่ายค้านที่สนับสนุนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิ์เป็นจำนวนมาก แต่ประณามผู้ที่ทำบัตรลงคะแนนเสียและกล่าวว่าจะดำเนินการกับพวกเขา

ในการแถลงชัยชนะ ปูตินยังเอ่ยชื่อ อเล็กเซ นาวาลนี เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เขาเสียชีวิต โดยกล่าวในทำนองโต้แย้งข้อกล่าวหาว่าเขาอยู่เบื้องหลังการตายของนาวาลนี

ปูตินยืนยันว่า เขาได้พยายามแลกเปลี่ยนนาวาลนีกับนักโทษที่ถูกคุมขังทางตะวันตก แต่มีเงื่อนไขว่าคู่แข่งของเขาจะไม่กลับมาเล่นการเมืองอีก “ผมบอกว่าผมพยายามทำแล้ว แต่น่าเสียดาย สิ่งที่เกิดได้เกิดไปแล้ว คุณทำอะไรได้บ้าง นั่นแหละชีวิต”

ทั้งนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีของรัสเซียไม่เคยเป็นสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกัน รัฐบาลควบคุมระบบการเมือง สื่อ และการเลือกตั้งอย่างเข้มงวด รวมถึงไม่มีผู้สมัครคนใดใน 3 คนที่เหลือจริงจังกับการชิงตำแหน่งเลย คาริโตนอฟที่ได้อันดับ 2 เคยถึงกับยกย่องปูตินก่อนการเลือกตั้งว่า “เขาพยายามรวมประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อชัยชนะในทุกด้าน”

ชาวรัสเซียหลายล้านคนจำเป็นต้องโหวตให้ปูตินดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 5 ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาไม่เห็นทางเลือกอื่นที่น่าเชื่อถือ แต่นั่นเป็นเพราะรัฐบาลได้ขจัดผู้ท้าชิงที่เป็นไปได้ออกจากภูมิทัศน์ทางการเมืองหมดแล้ว ไม่ถูกจำคุกก็ลี้ภัยหรือเสียชีวิต

ก่อนหน้านี้นักการเมืองต่อต้านสงครามชื่อ บอริส นาเดซดิน เคยเกือบเป็นตัวเต็งฝ่ายค้านที่น่าสนใจ แต่เมื่อเดือนที่แล้ว เขาถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งตัดสิทธิ์

เรียบเรียงจาก BBC/ The Guardian

ผลบอลเอฟเอ คัพ แดงเดือด แมนยู แซงชนะ ลิเวอร์พูล 4-3 ช่วงต่อเวลา คำพูดจาก เว็บสล็อตเว็บตรง

มอเตอร์โชว์ 2024 จัดวันไหน ไฮไลต์มีอะไรบ้าง เช็กที่นี่

ประกาศฉบับที่ 1 พายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง 19-20 มี.ค.

By admin