นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เป็นเรื่องที่ กนง.พิจารณา แต่หากจะขึ้นนั้นจะต้องดูทิศทางตลาดการเงินด้วย โดยต้องไม่ให้การขึ้นเป็นภาระต่อผู้ประกอบการ และประชาชนมากเกินไป โดยเรื่องดอกเบี้ยถือเป็นต้นทุนของทั้งผู้ประกอบการและผู้ซื้อ ดังนั้นคลังจะพยายามดูแลในเรื่องของดอกเบี้ย และมาตรการภาษีต่างๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับทั้งประชาชนและผู้ประกอบการด้วย
นอกจากนี้ คลัง เตรียมหารือกับ ธปทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. เพื่อขยายมาตรการแอลทีวี และจะหารือกับกระทรวงมหาดไทย ในการต่อมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองที่จะสิ้นสุดในปลายปีนี้ รวมถึงจะมีมาตรการกระตุ้นอื่นๆคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“ภาพของอสังหริมทรัพย์ในปีนี้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และภาคอสังหาริมทรัพย์ ถือเป็นอีก 1 เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศได้ โดยมีสัดส่วนคิดเป็น 8-9% ของจีดีพีทั้งประเทศ ซึ่งภาครัฐพร้อมสนับสนุนให้มีการฟื้นตัวได้”
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.พร้อมเป็นกลไกในการช่วยฟื้นตัวของภาคอสังหาฯ โดยในช่วงที่ธนาคารพาณิชย์เข้มงวดปล่อยกู้ ธอส.ได้เข้าไปช่วยปล่อยสินเชื่อให้ ซึ่งครึ่งปีแรกปล่อยกู้ได้แล้ว 1.3 แสนล้านบาท และทั้งปีจะปล่อยกู้ได้ถึง 2.6-3 แสนล้านบาท ขณะเดียวกัน พยายามตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้จนถึงเดือน ต.ค. เพื่อลดผลกระทบสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง โดยจะแบ่งกำไร 1,000 ล้านบาท ไปช่วยลดผลกระทบดอกเบั้ยขาขึ้นต่อผู้กู้
“หาก กนง.ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม ส.ค.นี้ ธอส.จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยทันที แต่จะตรึงไว้และขึ้นในเดือน ต.ค. โดยหาก กนง.ขึ้น 0.25% ธอส.จะขึ้น 0.15% เท่านั้น”